วิธีการดูแลบ่อดักไขมันในบ้านหรือร้านอาหาร

การดูแลถังดักไขมันในบ้านและร้านอาหาร การทำงานของถังดักไขมันมีหลักการง่ายๆ คือ การใช้วิธีแทนที่ของน้ำ คือ น้ำที่อยู่ในถัง จะถูกแทนที่จากน้ำที่ทยอยไหลเข้าไปและต้อง ให้น้ำในถังมีเวลาพอที่แยกไขมันกับน้ำดี ออกจากกัน จึงจำเป็นต้องมีแผงกั้นตรงกลาง ระหว่างถังเพื่อลดความเร็วของน้ำที่ไหลผ่าน เข้ามา ไม่ให้กระทบกับการแยกตัวของน้ำ กับไขมันให้มากที่สุด ดังนั้นถังดักไขมันยิ่ง ใหญ่ ยิ่งมีประสิทธิภาพมากและถ้าใครไม่สะดวกหรือไม่ว่างในการดูแลบ่อดักน้ำมันด้วยตัวเอง ก็สามารถจ้างบริการล้างบ่อดักไขมันได้

ถังดักไขมันแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอน

1. ตะแกรงดักเศษอาหาร จะช่วยกรองเศษอาหาร และสิ่งสกปรกต่างๆ เป็นการลด ความสกปรกใน ขั้นแรก
2. ส่วนแยกไขมันของน้ำ น้ำที่ผ่านการกรองเศษอาหารจะไหลผ่านไปอีกช่องหนึ่งของถัง ด้วยการ ออกแบบที่เหมาะสมตามทิศทางการไหลของน้ำจะมีประสิทธิภาพในการแยกและสกัด ไขมันที่ลอยอยู่ เหนือผิวน้ำ
3. ท่ออ่อนระบายไขมัน เมื่อไขมันถูกแยกจากน้ำที่สะสมอยู่ภายในตัวถัง ในระยะเวลา 7-10 วัน ก็ สามารถระบายไขมันออกทางท่ออ่อนลงถุง เพื่อนำไปทิ้งต่อไป น้ำทิ้งจากที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ผ่านกระบวนการของถังดักไขมัน จึงเป็นน้ำ ที่ได้มาตรฐาน สามารถระบายลงแหล่งน้ำ สาธารณะได้โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษแต่อย่างใด
การติดตั้งถังดักไขมัน ควรวางไว้ใกล้กับอ่างล้างจาน และเดินท่อน้ำเสียจากอ่างล้างจาน มาเข้าถังดัก ไขมัน เดินท่อน้ำทิ้งจากถังดักไขมันไปยังรางระบายน้ำสาธารณะ ความลาดเอียงของท่อ เท่ากับ 1:100
การดูแลรักษาถังดักไขมัน ควรนำตะกร้าดักเศษอาหารทิ้งทุกวัน เพื่อไม่ให้เศษอาหาร เกิดการบูดเน่า ควรระบายไขมันที่ลอยอยู่ออกทางท่อระบายไขมัน ทุก 7-10 วัน หรือตักไขมันออก ควรล้างถังดัก ไขมันทุก 4-5 เดือน โดยการถอดวาล์วที่ก้นถังออก

ปัจจุบันในร้านอาหารหรือห้องครัวภายในบ้านที่อยู่อาศัยทั่วไป มักพบปัญหาท่อน้ำอุดตันจากไขมันของอาหาร  ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อคุณเลือกใช้ถังดักไขมัน ที่มีระบบการทำงานภายในที่สมบูรณ์แบบ และมีประสิทธิภาพในการบำบัดที่ดี เหมาะสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร หรือห้องครัวภายในบ้านที่อยู่อาศัยทั่วไปหรือจะ
จ้างบริการล้างบ่อดักไขมันก็ได้

บอกต่อ 3 รสชาติความอร่อยแบบสุขภาพดี สั่งได้ที่ Lykke Yogurt Delivery

เมื่อเทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังมา แน่นอนว่าใคร ๆ ต่างก็หันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินกันมากขึ้น และตัวเลือกที่ดูเหมือนจะมาแรงมากในยุคนี้สำหรับคนอยากสุขภาพดี ก็คือ “กรีกโยเกิร์ต” ของดีมีประโยชน์ที่มาพร้อมสารอาหารดี ๆ ต่อร่างกาย และสำหรับใครที่ชอบเมนูนี้คงถูกใจไม่น้อย เมื่อร้านโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพอย่าง Lykke Yogurt ได้หันมาให้บริการ Lykke Yogurt Delivery เพื่อส่งมอบสุขภาพดีแบบถึงบ้านโดยไม่ต้องรอนาน

กรีกโยเกิร์ต ดีต่อสุขภาพอย่างไร

หลายคนอาจคุ้นเคยกับการรับประทานโยเกิร์ตกันอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินคำว่ากรีกโยเกิร์ตจึงไม่แน่ใจว่าคืออะไร แตกต่างจากโยเกิร์ตธรรมดาอย่างไร และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง โดยกรีกโยเกิร์ต คือ โยเกิร์ตชนิดหนึ่งที่ได้จากการนำโยเกิร์ตธรรมดามาดูดเอาเวย์ (Whey) และน้ำออก ทำให้กรีกโยเกิร์ตมีจุดเด่นคือเข้มข้นกว่าโยเกิร์ตทั่วไป มาพร้อมปริมาณโปรตีนที่สูงกว่า ทำให้เมื่อทานแล้วจะอิ่มง่าย ในขณะเดียวกันกลับมีน้ำตาล คาร์โบไฮเดรต และโซเดียมน้อยกว่า จึงดีต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง

บอกต่อ 3 รสชาติความอร่อย สั่งได้แล้ววันนี้ผ่าน Lykke Yogurt Delivery

1. Banoffee

ได้เวลาบอกลาโยเกิร์ตธรรมดา ๆ ด้วยโยเกิร์ตแสนอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ จุดเด่นของถ้วยนี้คือมาพร้อมซอสคาราเมลที่กลิ่นหอมสุด ๆ ที่สำคัญยังรสชาติหวานกำลังดี โรยหน้าด้วยกล้วยหอมสดใหม่ เมื่อทานแล้วให้รสชาติเปรี้ยวนิดหวานหน่อยช่างเข้ากัน ออเดอร์ถ้วยเดียวอาจไม่พอ

2. The Three Musketeer

ลิ้มลองความอร่อยแบบล้ำ ๆ โดยถ้วยนี้จัดเต็มส่วนผสมมากประโยชน์ ทานเมื่อไหร่ก็ดีต่อร่างกาย เพราะมีทั้งสตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี และกีวี ไม่ต้องกลัวว่าจะเปรี้ยวเกินไปเพราะความเปรี้ยวจากผลไม้จะถูกตัดด้วยซอสน้ำผึ้งหอมเย้ายวน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักผลไม้และชื่นชอบการทานรสเปรี้ยวกำลังดีตัดกับรสหวานหน่อย ๆ ของน้ำผึ้ง

3. Avocado Honeycomb

ใครรู้ตัวว่าชอบทานอะโวคาโดรีบสั่งความอร่อยผ่าน Lykke Yogurt Delivery ได้เลย จุดเด่นของโยเกิร์ตถ้วยนี้คือเลือกใช้อะโวคาโดสดหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ซึ่งสายสุขภาพน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าอะโวคาโดมีโปรตีนสูงและอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เป็นรวงผึ้งขนาดมินิ ตกแต่งมาอย่างน่ารักและน่ารับประทาน โดยความหอมหวานของน้ำผึ้งบวกกับความหอมมันของอะโวคาโด จึงทำให้เมนูนี้กลายเป็นเมนูโปรดของใครหลายคนได้ไม่ยาก

นอกจาก 3 รสชาติความอร่อยที่นำมาบอกต่อกัน Lykke Yogurt Delivery ยังมีโยเกิร์ตรสชาติอื่นที่พร้อมส่งมอบให้คุณถึงหน้าบ้าน รวมถึง Plain Yogurt หรือโยเกิร์ตที่ยังไม่ถูกแต่งรสชาติด้วยผลไม้ สามารถสั่งไปออกแบบความอร่อยได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีสูตรไขมันต่ำ สำหรับสายสุขภาพที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย

สเต็ปการแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน

หากคุณสาวๆ ท่านใดอยากแต่งหน้าให้สวยจนหนุ่มๆ ต้องมองเหลียวหลังตามต้องอ่านบทความนี้เลย เพราะบทความนี้เรามีสเต็ปการแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ มาฝาก แต่สเต็ปการแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ ที่เรานำมาฝาก จะมีเทคนิคเคล็ดไม่ลับอะไรบ้างนั้น ต้องเลื่อนลงมาอ่านพร้อมๆ กันเลย

สเต็ปการแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน

  • การแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน : อย่าขาดมอยส์เจอไรเซอร์ มอยส์เจอไรเซอร์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ผิวที่ได้รับการบำรุงจากมอยส์เจอไรเซอร์มาแล้วเป็นอย่างดีจะดูสดใส เนียนเรียบ ส่งผลให้แต่งหน้าได้ติดผิว และเมคอัพก็เนียนไปกับผิวหน้าดีด้วย อย่าลืมหันมาให้ความสำคัญกับการใช้มอยส์เจอไรเซอร์กันให้มากขึ้น ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
  • การแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน : รองพื้นเนื้อบางเบาหรือบีบีครีมแบบซองให้ความปกติอย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกรองพื้นเนื้อบางเบาหรือบีบีครีมแบบซองผิดจะทำให้ผิวของคุณดูแก่ขึ้นได้มาก ลองใช้รองพื้นเนื้อบางเบาหรือที่เรียกว่าบีบีครีมแบบซองเซเว่น 2021 ซึ่งปกปิดได้ดีระดับหนึ่ง แล้วยังทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ เบาสบายหน้า
  • การแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน : บลัชเนื้อครีม แก้มสวยฉ่ำไม่ตกร่อง ลองใช้บลัชเนื้อครีมปาดแก้มตอนลงรองพื้นเสร็จใหม่ๆ แล้วเบลน์ให้เนียนไปกับผิว ก็จะได้แก้มที่ฉ่ำวาวเปล่งปลั่ง แถมยังไร้ปัญหาตกร่องด้วย
  • การแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน : อายแชโดว์สีโทนร้อนผสมชิมเมอร์ อายแชโดว์ที่ผสมชิมเมอร์เนื้อละเอียด สามารถพรางรอยพับหรือริ้วรอยเล็กๆ ที่เลปือกตาได้ จึงช่วยให้หนังดูตึงและเรียบขึ้น แต่ควรเลือกใช้เฉพาะอายแชโดว์ที่โทนร้อนอย่างสีทอง สีบรอนซ์ สีพีช

และสเต็ปการแต่งหน้าที่บอกเลยว่าแต่งเสร็จแล้วสวยบาดใจหนุ่มๆ แน่นอน สเต็ปสุดท้าย คือ การเลือกใช้ลิปสติกสีสดใส เพื่อเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าและริวฝีปากของคุณนั่นเอง

บริษัทรับออกแบบห้องนอนแนะการใช้ไฟในการตกแต่งห้องนอน

บทความนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิควิธีการใช้ไฟในการตกแต่งห้องนอนกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทรับออกแบบห้องนอนแนะนำเลยทีเดียว แต่เทคนิควิธีการใช้ไฟในการตกแต่งห้องนอนที่เรานำมาฝากจะมีเทคนิคใดบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

บริษัทรับออกแบบห้องนอนแนะการใช้ไฟในการตกแต่งห้องนอน

  • การใช้ไฟในการตกแต่งห้องนอน คือ ไฟตกแต่งห้องแบบเทียน การจะเปลี่ยนบรรยากาศให้สุดแสนโรแมนติกนั้นง่ายมาก ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน แสงไฟที่เป็นที่ยอดฮิตที่สุดในการใช้ตกแต่งห้องก็คือแสงเทียน หนึ่งในแสงไฟที่มอบความโรแมนติกให้ในทุกๆ สมัย หลายคนนิยมนำมาเซอร์ไพรส์ คนรักในโอกาสพิเศษ ไฟที่ใช้ในการตกแต่งห้องอย่างเทียนนั้นสามารถสื่อความหมายได้ถึงความอบอุ่นของคู่รัก และบ่งบอกถึงความโรแมนติกแบบสุดขั้ว ข้อเสียคือใช้งานค่อนข้างยากและต้องจัดวางตำแหน่งในห้องหลายจุด อีกทั้งยังอาจจะให้ความสว่างไม่เพียงพอ ไฟในการตกแต่งห้องอย่างจำพวกเทียนจึงเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กๆ อาทิ คอนโดฯ หรือ ห้องรับประทานอาหารส่วนตัว เป็นต้น ไม่ควรใช้บนพื้นที่ขนาดกว้างขนาดใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ที่มีขนาดกว้างอาจจะทำให้ไฟในการตกแต่งห้องอย่างเทียนเจอลมพัดแรงและดับง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลไปถึงการใช้งานและวาระโอกาสอันดีในเวลาที่เหมาะสมด้วย

และการใช้ไฟในการตกแต่งห้องนอน เทคนิคสุดท้าย คือ ไฟตกแต่งห้องแบบเส้น ไฟแบบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งดวงไฟที่เป็นที่นิยมมากหรือตามภาษาชาวบ้านเรียกกันว่าไฟคริสมาสต์ มีหลากหลายรูปแบบหลากสีสรร บางชนิดมีแบบไฟกระพริบ นิยมใช้เป็นไฟตกแต่งเพื่องานสังสรรค์ที่มีความคึกคักสะมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็สามารถนำมาเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้โรแมนติดได้ โดยการนำสายไฟมาวาดลวดลายติดผนัง ติดเพดานให้เป็นข้อความสื่อถึงคนรัก การใช้ไฟแบบนี้ในการตกแต่งห้องในโอกาสพิเศษสำหรับคู่รักจะสื่อถึงความคงเส้นคงวาของคู่รัก ไม่ควรเลือกไฟที่มีหลายเฉดสี เพราะเดี๋ยวการตกแต่งหห้องด้วยไฟจากที่จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่โรแมนติกอาจเปลี่ยนห้องของคุณให้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตหรืองานเลี้ยงฉลองโบนัสก็ได้ ฉะนั้นสิ่งที่ควรทำคือเลือกไฟเพียงเฉดสีเดียวหรือเลือกสีง่ายๆ อย่างสีปกติคือสีส้มจะสื่อถึงความอบอุ่นได้ดีที่สุด และที่สำคัญไฟในการตกแต่งห้องที่เป็นเส้นแบบนี้จะต้องวาดลวดลายออกมาเป็นตัวอักษรที่โดนใจคู่รักที่สุดด้วยเราขอแนะนำบริษัทรับออกแบบห้องนอน https://www.usfurnish.com/บิ้วอินห้องนอนขนาดเล็ก/ โดยทีมงานมืออาชีพ

หางานไม่ยากอย่างที่คิด

การหางานในยุคนี้นั้นมีความยากลำบากกว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมาจากผลของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นทำให้หลาย ๆ ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ นั้นได้เริ่มมีมาตรการในการลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่สามารถลดได้ก็คือการลดเงินเดือนของพนักงานลง ซึ่งเป็นทางออกที่ถือได้ว่าเบาที่สุด แต่ก็มีอีกหลาย ๆ ชีวิตที่ต้องตกงานกะทันหันจากการโดนจ้างออก แต่ในบางแห่งอาจถึงขั้นร้ายแรงคือลอยแพพนังงานในบริษัททุกคนเนื่องจากผลกำไรขาดทุนนั้นเกินจะรับไหว ซึ่งนับได้เลยว่าเป็นช่วงที่ยากต่อการหางานเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ ในการที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและได้งานมากยิ่งขึ้น 

เทคนิคการหางานในยุคสมัยใหม่ 

การหางานในยุคสมัยนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อมต่อตนเองและเอกสารเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากมีบางที่นั้นได้มีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 กันแล้ว ถ้าหากไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม อาจจะสามารถทำให้พลาดการได้งานเลยก็ว่าได้ เป็นต้น  

  1. เทคนิคการเตรียมความพร้อม 

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ทุกคนที่ต้องการหางานนั้นจะต้องเริ่มทำเป็นอันดับแรก ๆ เนื่องจากความพร้อมนั้นสามารถบ่งบอกถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการทำงาน บ่งบอกถึงวุฒิภาวะของความเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานเป็น ความพร้อมในที่นี้จะรวมไปถึงความพร้อมในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมในเรื่องของการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่สำคัญ ถ้าหากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วนั้น เอกสารการอบรมต่าง ๆ ยิ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ในการสร้างความน่าสนใจให้แก่กรรมการผู้ที่จะมาสัมภาษณ์งานให้แก่เรา 

  1. เทคนิคการพูด การเจรจา 

การพูดการเจรจานั้นเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับองค์กร เนื่องจากทักษะในการพูดนั้นมีส่วนที่สำคัญในการทำงานการทำงานนั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างไม่ติดขัด จะต้องมีการปรึกษาหารือและหาช่องว่างที่จะสามารถทำงานร่วมกันกับผู้อื่นได้นั่นเอง 

  1. การแต่งกายในการสัมภาษณ์งาน 

การแต่งกายในการสัมภาษณ์งานนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในเรื่องของมารยาทในการสัมภาษณ์ที่จะต้องมีความเป็นทางการ ให้เกียรติ อีกทั้งลักษณะท่าทางในระหว่างสัมภาษณ์นั้นมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก เราสามารถหาข้อบกพร่องของตนเองในระหว่างสัมภาษณ์ได้จากการบันทึกเสียงหรือวิดีโอในขณะที่เรานั้นสัมภาษณ์จริง ๆ เพื่อหาข้อบกพร่องต่าง ๆ การมอง ลักษณะบุคลิกภาพต่าง ๆ นั้นที่เราได้แสดงออกไป เพื่อเป็นการปรับปรุงและแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นออกไป ทำให้เรานั้นเป็นคนที่น่าสนใจ น่าเชื่อถือและน่าดึงตัวเข้ามาร่วมงานได้อีกด้วย 

ทำความรู้จักกับ SHEIN แอพเสื้อผ้าออนไลน์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้

กระแสในโลกปัจจุบันนี้ให้ความสนใจกับโลกออนไลน์กันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกระแสการซื้อสินค้าออนไลน์นั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยมกันสุด ๆ และในวันนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายออนไลน์กันมากสุดเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ นั่นคือเสื้อผ้าแฟชั่นนั่นเอง ด้วยปัจจุบันนี้สถานการณ์ต่าง ๆ มากมายทำให้เราไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตหรือซื้อสินค้าได้อย่างปกติ การซื้ออนไลน์จึงตอบโจทย์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเสื้อผ้า และแอพซื้อของจากจีนชื่อดังที่เจาะกลุ่มไปที่เสื้อผ้าแฟชั่นนั้นคงหนีไม่พ้นแอพ SHEIN นั่นเอง แอพ SHEIN นั้นเป็นแอพซื้อของจากจีนที่เน้นเสื้อผ้าเป็นหลัก มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีของการซื้อเสื้อผ้าจากแอพซื้อของจากจีนที่ชื่อว่า SHEIN ว่าดียังไง

ข้อดีของการซื้อเสื้อผ้าในแอพ SHEIN

  • แอพ SHEIN เป็นแอพที่มีเสื้อผ้าแฟชั่นหลากหลายให้เลือกซื้อ ซึ่งบางตัวหาซื้อไม่ได้ทั่วไปแต่มีขายในแอพนี้ เรียกได้ว่ามีเสื้อผ้าให้เลือกซื้อเยอะกว่าด้านนอกที่เราต้องไปเลือกหาหลาย ๆ ร้าน แต่ในแอพนี้รวบรวมมาให้หมด ครบจบในแอพเดียว อีกทั้งเสื้อผ้าที่ขายในแอพจะเป็นเสื้อผ้าที่ตามเทรนด์ นำแฟชั่นสุด ๆ เหมาะสำหรับสาว ๆ ผู้นำแฟชั่นเป็นอย่างมาก
  • เสื้อผ้าที่ขายในแอพมีหลาย size เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างใหญ่หาซื้อเสื้อผ้ายาก เพราถ้าเดินตามตลาดทั่วไปเสื้อผ้าจะเน้นไปที่ Free size ซึ่งเป็นขนาดที่ค่อนข้างพอดีตัวสำหรับคน size s, m เท่านั้น แต่สำหรับแอพนี้มี size ที่เหมาะกับคนทุก size และมี size chart ที่ชัดเจนทำให้เรากะขนาดของเสื้อผ้าที่จะสั่งได้
  • เสื้อผ้าที่ขายในแอพ SHEIN มีราคาที่ค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับร้านอื่น ๆ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการจัดส่งนานหน่อยเพราะสินค้ามาจากต่างประเทศ แต่ความคุ้มค่านั้นดีทีเดียวเพราะเราได้สินค้าที่สวยถูกใจและราคาดี ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบใช้เสื้อผ้าและสามารถรอได้

นอกเหนือไปจากนี้แอพ SHEIN จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก เพราะเยอะและหลากหลายสวยงามเลือกสนุกและน่าสนใจสุด ๆ ทุกคนสามารถไปเลือกซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ งาม ๆ ได้จากแอพนี้ แนะนำสุด ๆ

แนะนำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นที่น่าสนใจ

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าถือได้ว่าเป็นตัวสำคัญสำหรับกลไกการทำงานของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก หากไม่มีตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแล้วนั้นเราก็ไม่สามารถที่จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ และอย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีให้เลือกใช้หลายกลิ่น หลายสี รวมไปถึงหลายรสชาติ โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นนั้นว่าเจ้าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกลิ่นองุ่นนั้นมีแบบไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นที่น่าสนใจ

เราจะมาแนะนำน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นว่ามีแบบไหนหรือประเภทไหนที่น่าสนใจและได้รับความนิยมกันบ้าง

  • ตัวแรกที่แนะนำคือ Phatjuice Grape Saltnic หรือที่หลายคนเรียกว่าน้ำยาองุ่นยาว หรือเรียกสั้น ๆ ว่าองุ่นยาวsalt นั้น ซึ่งหากเราพูดถึงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากคงหนี้ไม่พ้น องุ่นยาวsalt ของ Phatjuice โดยตัวน้ำยาองุ่นยาวsaltกลิ่นหอมหวาน นี้ทำออกมาได้มีลักษณะเฉพาะตัวอีกทั้งยังเหมือนกับตัวองุ่นยาวแบบฟรีเบส ซึ่งมีรสชาติหวานกลาง ๆ และมีความเย็นเล็กน้อยสูบง่ายไม่ระคายคอ
  • ตัวต่อมาที่อยากแนะนำคือ Binjai Grape Saltnic น้ำยาของบินใจนั้นจะทำออกมาได้แตกต่างจากของ Phatjuice โดยของบินใจจะกลิ่นคล้ายองุ่นเจลลี่ ๆ ที่มีความเย็น ๆ กินง่ายไม่บาดคอ
  • น้ำยากลิ่นองุ่นที่อยากแนะนำอันต่อมาคือ Grape Smoothie Frozen Saltnic น้ำยาตัวนี้จากชื่อแล้วอาจเรียกว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าองุ่นปั่น ซึ่งน้ำยาตัวนี้จะขึ้นชื่อในเรื่องของความหวานและความเย็น ดังนั้นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าตัวนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบน้ำยาองุ่นแบบหวานจัด ๆ และเย็นจัด ๆ ด้วยเช่นกัน
  • น้ำยาองุ่นตัวต่อมาคือ Cloud Sheep Salts Grape Master หรือที่หลายคนเรียกว่าน้ำยาองุ่นแกะ น้ำยาองุ่นตัวนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงที่น้ำยาองุ่นยาวนั้นมีการระบาดของสินค้าปลอม จึงทำให้คนหันมาใช้น้ำยาตัวนี้กันมาก โดยน้ำยาองุ่นตัวนี้จะมีกลิ่นหอมหวานๆ เย็น ๆ เล็กน้อย มีปริมาณนิโคตินอยู่ที่ 35 มิลลิกรัม และไม่ทำให้ผู้สูบมีความรู้สึกแทงคอ สามารถสูบได้เรื่อย ๆ 

นอกเหนือจากที่กล่าวไปนั้นยังมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นอีกมากมาย และมีความหอม หวาน เย็น ถูกใจผู้สูบเป็นอย่างมาก จึงทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นองุ่นได้รับความนิยมมากและมีให้เลือกหลากหลายด้วยเช่นกัน สามารถเลือกซื้อได้เลยที่ 

วิธีการคำนวณปริมาตรปูนให้เหมาะสมกับพื้นที่มากที่สุด

การสร้างอาคารด้วยงานปูน  ถือเป็นนวัตกรรมที่นิยมทำกันมานับหลายร้อยปี โดยชนิดของปูนแต่ละประเภทมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ซึ่งในแต่ละครั้งที่จะเทปูนนั้นถือว่ายุ่งยากซับซ้อนมากนัก อาจจะต้องเตรียมความพร้อมและผสมเองทั้งหมด โดยการผสมนั้นอาจไม่ได้มาตรฐาน จึงส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในงานก่อสร้างได้ และด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เกิดบริษัทผสมปูนผสมเสร็จขึ้นมา เพื่อให้งานปูนของอาคารบ้านเรือนต่างๆ เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการจะสั่งปูนเทพื้นที่จอดรถ ถนน หรือลานรอบบ้าน มักจะมีความหนาอยู่ที่ 10 หรือ 15 เซนติเมตร อาจจะต้องมีการคำนวณปริมาตรปูนที่ต้องการสั่งเป็นหน่วยคิวบิกเมตร โดยบทความนี้จะเป็นการแนะนำการคำนวณพื้นที่เพื่อสั่งปูนอย่างไร ให้เหมะสำหรับพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างเหมาะสม

หลักวิธีการคำนวณ

  • ปริมาตรปูน 1 คิว

ปูน 1 คิว (คิวบิกเมตร) ก็คือปริมาตรปูนทรงลูกบาศก์ที่มีความกว้าง 1 เมตร x ยาว 1 เมตร x สูง 1 เมตร (100 ซม. X 100 ซม. X 100 ซม.) ซึ่งเมื่อลองนำมาตัดแบ่งเป็นพื้นหนา 10 ซม. จะสามารถตัดได้ทั้งหมด 10 แผ่น หรือ 10 ตร.ม. หรือหากนำมาตัดแบ่งเป็นพื้นหนา 15 ซม. จะสามารถตัดออกมาได้ 6 แผ่นกว่าๆ หรือประมาณ 6.67 ตร.ม.

  • ปูน 1 คิวสามารถเทพื้นหนา 10 ซม. ได้ 10 ตร.ม. หรือเทพื้นหนา 15 ซม. ได้ 6.7 ตร.ม.

การจะสั่งปูนเทพื้นมาเท แต่ไม่ทราบว่าจะคำนวณการสั่งปูนกี่คิว สามารถวัดขนาดพื้นและความหนาที่ต้องการเทแล้วจากนั้นนำมาคำนวณตามสูตร ก็จะได้ปริมาตรปูนที่ต้องสั่ง (คิว) ตามสูตร ความกว้าง (เมตร) x ความยาว(เมตร) x ความหนา(เมตร) = ปริมาตรคอนกรีต (คิว) ยกตัวอย่างเช่น ขนาดพื้นที่จอดรถ กว้าง 5 ม. ยาว 5 ม. เทพื้นปูนหนา 0.15 ม. (15 ซม.) จะได้ 5x5x0.15 = 3.75 คิว เป็นต้นอย่างไรก็ตาม ปริมาณการสั่งปูนเทพื้นมาเท อาจมีค่าความคลาดเคลื่อนไปจากปริมาณที่คำนวณได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยอาจจะเกิดจากพื้นที่ต้องการเทมีความลาดเอียง (ความหนาพื้นหัวท้ายไม่เท่ากัน) การลำเลียงหรือการเทอาจจะหกล้นระหว่างทางได้ ดังนั้นควรปรึกษากับวิศวกรหรือโฟร์แมนหน้างานว่าควรสั่งปูนเทพื้นเผื่อไว้มากกว่าปริมาณที่ต้องการ เพื่อให้พอดีกับพื้นที่บริเวณดังกล่าวมากที่สุด

อบรม คปอ ออนไลน์ดีไหม เป็นอย่างไร มีคำตอบ

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือ คปอ ซึ่งกฎกระทรวงได้หนดมาตรฐานการบริหารจัดการ และการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ 2549 โดยบังคับให้กิจการหรือสถานประกอบการ ทำเหมืองแร่ ถ่านหิน ปิโตเลียมหรือปิโตรเคมี การผลิต การซ่อมบำรุง งานก่อสร้าง การขนส่งคน ขนส่งสินค้า สถานีบริการน้ำมัน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล สถาบันทางการเงิน สถานทดสอบทางกายภาพ สถานบันเทิง กีฬา ฯลฯ ตามที่กระทรวงแรงงานประกาศ ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ต้องมีการจัดตั้ง คปอ ปัจจุบันมีหน่วยงานรับจัดอบรม คปอ ออนไลน์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้มากพอสมควร

สำหรับหน่วยงานหรือสถาบันที่จัดอบรม คปอ ออนไลน์ จะต้องได้รับอนุญาตจาก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 เพื่อการันตีความน่าเชื่อถือ สำหรับการอบรม คปอ ออนไลน์ แต่ละสถาบันมักจะอบรมผ่านโปรแกรมซูม หรือ แอปพลิเคชัน ZOOM ที่มีเสถียรภาพสูง มีความคมชัดทั้งภาพและเสียงในระดับ Full HD เพื่อสามารถถ่ายทอดวิชาความรู้ตามหลักสูตรการอบรม คปอ ที่กฎหมายกำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การอบรม คปอ ออนไลน์ หลังจากที่ผู้เข้ารับการอบรม คปอ ออนไลน์ อบรมตามหลักสูตรครบทั้ง 12 ชั่วโมง จะต้องผ่านการทดสอบความรู้ ความเข้าใจ หลักการอบรมเสร็จเรียบร้อยด้วย ทางหน่วยงานที่อบรม คปอ จะมีการมอบวุฒิบัตรเพื่อแสดงว่าบุคคลนั้นๆ ได้ผ่านการอบรม คปอ ตามหลักสูตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การอบรม คปอ ออนไลน์ ไม่ใช่แค่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ที่เข้ารับการอบรมเพียงอย่างเดียว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้วิถีชีวิตของมนุษย์ต้องเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ หรือไม่รวมกลุ่มกัน ดังนั้น การอบรม คปอ ออนไลน์ หรือแม้แต่การเรียนการสอน การประชุม การจัดสัมมนาต่างๆ จึงต้องเปลี่ยนมาใช้การอบรมออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัยในด้านสุขภาพ

กลับมาต่อกันที่เรื่องของ คปอ  การอบรม คปอ มีวัตถุประสงค์หลักๆ ก็เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับลูกจ้าง และให้ลูกจ้างสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนเพื่อให้นายจ้างเอง สามารถปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยในการทำงานด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ที่จะเข้ารับการอบรม คปอ ได้ ต้องเป็นคณะกรรมการความปลอดภัยฯ และได้รับการยินยอมจากนายจ้างให้เข้ารับการอบรม คปอ ด้วย

เราจะขอเน้นย้ำอีกสักครั้งว่า การอบรม คปอ ออนไลน์ ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องเลือกหน่วยงานจัดอบรมที่เชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งหน่วยงานนั้นๆ ต้องได้รับอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รวมถึงได้รับมาตรฐาน ISO 9001 ด้วย การอบรม คปอ มีด้วยกัน 3 หมวดวิชา ได้แก่ การบริหารงานของ คปอ เพื่อการทำงานในสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ กฎหมายและความปลอดภัยในการทำงาน และหมวดหมู่สุดท้าย ก็คือ บทบาทหน้าที่ของ คปอ โดยในแต่หมวดหมู่ ก็จะมีรายละเอียดที่ยิบย่อยลงไปอีก

วิธีการหาโกดัง หรือ โรงงานให้เช่า เราจะต้องหาอย่างไร

โดยปกติแล้วสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่นั้น การเลือก และ มองหา โกดัง โรงงาน ให้เช่า นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไป และไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร จึงทำให้ไม่รู้ว่าในการเลือกมองหา โกดัง และ โรงงานให้เช่านั้นเราจะต้องเลือกอย่างไร  ดังนั้นในบทความนี้เราจมาพูดถึงวิธีการเลือก และ มองหา โกดัง โรงงานให้เช่า กันว่าในการมองหานั้น เราจะต้องเลือกจากการหาอย่างไรบ้าง

ค้นหาความต้องการของการมองหา

อย่างแรกเลยนั้นคือในเรื่องของการมองหาสิ่งที่เราต้องการก่อนว่าเรานั้นจะต้องการพื้นที่แบบไหนในการ ซึ่งจะนำพาเราไปใช้ในการเลือก โดยการเลือกนั้นเราจะสามารถแบ่งพื้นที่ได้เป็น 3 ความต้องการนั้นคือ

  • โกดังสินค้า
  • พื้นที่การผลิต
  • พื้นที่ผสม

โดยเรานั้นจะต้องมองหาความต้องการของการใช้งานก่อนว่าเราจะต้องการใช้งานแบบไหนในการเลือก และมองหา เพื่อให้เรานั้นสามารถที่จะแบ่งพื้นที่ในการใช้งานได้อย่างถูกต้อง

เริ่มมองมองหาพื้นที่ออนไลน์

เมื่อเรารู้ว่าความต้องการของเรานั้นเป็นแบบไหน แล้ว เราต้องการพื้นที่แบบใดเพื่อให้การใช้งานของเรานั้นเกิดประโยชน์สูงสุด เราจะเริ่มที่จะสามารถรถมองหาพื้นที่นั้น ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที โดยให้เราเริ่มมองหาจาก โกดังให้เช่า ใกล้ฉัน ก่อน และค่อย ๆ ขายายอาณาเขตการค้นหาไปเรื่อย ๆ โดยให้เราหาข้อมูลไว้หลากหลายที่ก่อนนะครับ และหลังจากนั้นค่อยน้ำแต่ละพื้นที่มาเปรียบเทียบกัน และ ค่อยลงไปดูหน้างานจริง ว่าแต่ละพื้นที่นั้นมีสภาพแวดล้อมอย่างไรเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้มากขึ้น

สำรวจหน้างาน เยียมชม และ มองรอบด้านให้ครบ

เมื่อเรานั้นได้พื้นที่ที่เราต้องการแล้ว นั้นให้เรานั้นเริ่มเยียมชมพื้นที่ที่เราต้องการและ List ไว้ได้ทันที โดยให้เรานั้นเริ่มมองหาโรงงาน หรือ โกดังที่ช่วยตอบโจทย์เราหลากหลายปัจจัยด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของมาตรฐานโกดังสินค้า หรือ โรงงาน เดินทางยากหรือไม่ มีการคมนาคมที่ดีหรือไม่ สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ตัวอาคารมีความแข็งแรงหรือไม่ ดังนั้นเราต้องมองจากหลากหลายปัจจัยไว้นะครับเพื่อให้เราได้โรงงาน และ โกดังสนิค้าที่มีคุณภาพ

ทำความเข้าใจสัญญา และ เงื่อนไขในการเช่า

สุดท้ายเมื่อเรานั้นโรงงาน หรือโกดังสินค้าที่เราต้องการไว้แล้วนั้นให้เรานั้นเริ่มมองหาสัญญา และ เงื่อนไขในการเช่าซื้อได้ทันที โดยเรานั้นจะต้องอ่านสัญญานั้นให้ครบถ้วน ครบทุกบรรทัด และ หาจุดบกพร่องของสัญญาที่อาจจะนำมาสู่การเสียผลประโยชน์ของเราได้ หรือ สัญญาตรงไหนที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราจะต้องทำความเข้าใจสัญญาทั้งหมด และ เงื่อนไขในการเช่าซื้อก่อนนะครับ

เซ็นสัญญา จ่ายมัดจำ

สุดท้ายเมื่อทำความเข้าใจในทุก ๆ เรื่องของสัญญา และ มาตรฐานของโกดังสินค้า หรือ โรงงาน ไว้เรียบร้อยแล้วให้เรานั้นตกลงเซ็นสัญญา พร้อมกับจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าได้ทันที แต่ว่าจะต้องทำความเข้าใจในสัญญาทั้งหมดให้ดีก่อน เพื่อเข้าใจทิศทางเดียวกัน และ จะได้ไม่มีปัญหา และ ความเข้าใจผิดในภายหลังนะครับ

ดังนั้นจะเห็นว่าการเลือกมองหาพื้นที่ให้เช่านั้นไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย แต่สิ่งที่สำคัญในการเลือก และ มองหานั้นคือในเรื่องของนั้นคือในเรื่องของมาตรฐานโกดังสินค้า และโรงงานนะครับว่ามีมาตรฐานในการเลือกเช่าที่ดี หรือไม่ หรือมีความพร้อมในทุก ๆ ด้านหรือไม่ รวมทั้งมีการคมนคมที่ดีและมีมาตรฐานที่ขนาดไหน ซึ่งเราควรเลือกโกดังให้เช่า ใกล้ฉัน  ไว้เป้นตัวเลือกแรก ๆ ก่อนจะดีที่สุดหลังจากนั้นค่อย ๆ เริ่มมองหาโกดังที่ใกลตัวจากตัวเองนะครับ